10 โรคร้าย สุดอันตรายที่ผู้หญิงควรระวัง

1.โรคหัวใจ และหลอดเลือด

          หลายคนเข้าใจว่า มะเร็งปากมดลูก หรือมะเร็งเต้านม เป็นโรคที่ทำให้ผู้หญิงทั่วโลกเสียชีวิตมากที่สุด แต่จริง ๆ แล้ว "โรคหัวใจและหลอดเลือด" ต่างหากที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของผู้หญิงทั่วโลก และจากสถิติพบว่า อัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้หญิงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ต่างกับผู้ชายที่ลดลง ซึ่งอาจเป็นเพราะผู้หญิงเข้ารับการตรวจสุขภาพน้อยกว่าผู้ชาย และการตรวจวินิจฉัยโรคหลอดเลือดหัวใจในผู้หญิงก็ให้ผลการตรวจได้ไม่ชัดเจน แจ่มแจ้งเท่ากับผู้ชายด้วย

          ป้องกันอย่างไรดี :

          อย่าสูบบุหรี่

          พยายามรักษาน้ำหนักตัว และคอเลสเตอรอลในร่างกายให้อยู่ในระดับปกติ ด้วยการออกกำลังกาย และลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี

          สำหรับครอบครัวไหนที่มีประวัติคนในครอบครัวป่วยด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือด, เบาหวาน หรือ ความดันโลหิตสูง ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบด้วย


ปวดหัว

2.โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)

          นี่คือโรคที่คร่าชีวิตผู้หญิงทั่วโลกเป็นอันดับต้น ๆ เช่นกัน และสำหรับหญิงไทย นี่คือโรคร้ายที่เป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 เลยทีเดียว รู้ไหมว่า ผู้หญิงอย่างเรา ๆ เสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมอง มากกว่ามะเร็งเต้านมถึง 2 เท่า แต่ทว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่รู้จักอาการของโรคนี้ และไม่เชื่อว่า โรคหลอดเลือดสมองเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกช่วงอายุ

          สำหรับโรคหลอดเลือดสมองนั้น ประกอบไปด้วย 3 โรคหลัก ๆ คือ เส้นเลือดสมองตีบ เส้นเลือดสมองแตก และเส้นเลือดสมองอุดตัน โดยจะพบผู้ป่วยเส้นเลือดสมองตีบมากที่สุด ทั้งนี้ ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้น หากในครอบครัวมีประวัติเคยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ไขมันในเลือดสูง หรือเป็นโรคหัวใจ เพราะฉะนั้น หากใครมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง แขนขาอ่อนแรง ปากเบี้ยว ตามัว อย่านิ่งนอนใจ ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะหากถึงมือแพทย์ช้า มีสิทธิ์เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ได้เลยทีเดียว

          ป้องกันอย่างไรดี :

          ออกกำลังกายเป็นประจำ
          อย่าสูบบุหรี่
          รักษาน้ำหนักตัวไม่ให้อ้วนเกินไป
          ลดการทานอาหารที่มีไขมันและเค็มจัด
          ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี
          หากป่วยเป็นเบาหวาน โรคหัวใจ ภาวะไขมันในเลือดสูง ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อลดโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมอง

3.ภาวะสมองเสื่อม

          ภัยเงียบใกล้ตัวที่เกิดขึ้นจากความสามารถในการทำงานของสมองลดลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความจำ ความเข้าใจ การใช้เหตุผล ซึ่งภาวะสมองเสื่อมนี้ เป็นอาการแสดงของหลาย ๆ โรค ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีสาเหตุมาจากโรคอัลไซเมอร์ และเป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้หญิงสูงอายุ โดยพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาวะขาดฮอร์โมนเพศในวัยหมดประจำเดือน

          ป้องกันอย่างไรดี : จริง ๆ แล้วยังไม่มีวิธีป้องกันและรักษาโรคนี้อย่างชัดเจน เช่นนั้นแล้ว ทางที่ดีคือการกระตุ้นให้สมองได้ใช้งานอยู่เสมอ โดยอาจจะเล่นคอร์สเวิร์ด หรือเล่นเกมปริศนา ก็จะช่วยทำให้สมองได้ทำงานมากขึ้น นอกจากนั้นแล้ว การรับประทานอาหารจำพวกผักใบเขียวและน้ำมันปลา ก็ช่วยได้

4.มะเร็งปอด

          จากการสำรวจผู้หญิงทั่วโลกในช่วงไม่นานมานี้ พบว่า มะเร็งปอดเป็นโรคมะเร็งลำดับที่ 5 ที่ผู้หญิงทั่วโลกต้องเผชิญ และอุบัติการณ์โรคกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเพศหญิง ซึ่งสาเหตุเป็นเพราะในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ผู้หญิงทั่วโลกสูบบุหรี่เพิ่มขึ้นมากนั่นเอง และผู้หญิงจะไวต่อสารก่อมะเร็งมากกว่าผู้ชายด้วย

          ป้องกันอย่างไรดี : กว่า 90% ของผู้ป่วยมะเร็งปอดเกิดจากการสูบบุหรี่ ดังนั้น หยุดสูบบุหรี่ซะ และหลีกเลี่ยงการรับควันบุหรี่ ซึ่งเป็นบุหรี่มือสอง และนอกจากการสูบบุหรี่แล้ว การทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม และได้สูดดมแร่ใยหิน หรือแอสเบสตอส ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงของโรคนี้

มะเร็งเต้านม

5.มะเร็งเต้านม

          โรคมะเร็งเต้านม เป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่พบได้บ่อยมากในผู้หญิงอายุระหว่าง 25-64 ปี สำหรับในประเทศไทย พบหญิงไทยป่วยมะเร็งเต้านมมากเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งปากมดลูก แต่เมื่อปี พ.ศ.2553 ที่ผ่านมา สถิติของหญิงไทยที่ป่วยมะเร็งเต้านมแซงหน้ามะเร็งปากมดลูกไปแล้ว แต่อัตราการเสียชีวิตยังน้อยกว่ามะเร็งปากมดลูก

          ป้องกันอย่างไรดี : ความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมจะสูงขึ้น หากคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคนี้ ดังนั้น เราจึงแนะนำให้คุณสาว ๆ ตรวจเต้านมด้วยตัวเองทุก ๆ เดือน หากพบความผิดปกติ คือ มีก้อนที่เต้านม รูปร่างเต้านมเปลี่ยนแปลง หัวนมหดตัว คัน แดงผิดปกติ มีเลือดออก ให้ไปรับการตรวจจากแพทย์ และอย่าลืมไปให้แพทย์ตรวจปีละครั้ง

6.โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (chronic obstructive pulmonary disease : COPD)

          เป็นโรคระบบทางเดินหายใจที่พบได้บ่อยมาก เมื่อเป็นแล้วจะทำให้หายใจลำบาก หอบเหนื่อยง่าย โดยพบว่า ผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง 3 ใน 4 เกิดจากการสูบบุหรี่ ส่วนสาเหตุอื่น ๆ เกิดจากมลพิษทางอากาศ การติดเชื้อที่ทางเดินหายใจ รวมทั้งการประกอบอาชีพที่ต้องสูดเอาฝุ่นและสารเคมีเข้าไปในร่างกาย

          ป้องกันอย่างไรดี : แน่นอนค่ะ คุณต้องหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ แต่หากปอดของคุณมีปัญหาอยู่แล้ว แนะนำให้ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี เพราะหากติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ขึ้นมาก็อาจทำร้ายปอดได้ค่ะ

ไข้หวัดใหญ่

7.ไข้หวัดใหญ่

          ไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในช่วงระยะเวลาหนึ่ง อาการทั่วไปคล้าย ๆ กับไข้หวัดธรรมดา แต่ที่สังเกตได้ชัดคือ ผู้ป่วยจะมีไข้สูงมาก และเจ็บคอ ซึ่งหากไม่รีบรักษา อาการจะหนักขึ้นจนทำให้ปอดอักเสบ เกิดการติดเชื้อในสมองและหัวใจ ทำให้เสียชีวิตได้เลย ทั้งนี้ กลุ่มเสี่ยงก็คือ เด็กเล็ก คนที่อายุ 65 ปีขึ้นไป รวมทั้งหญิงตั้งครรภ์

          ป้องกันอย่างไรดี : หากอยู่ในช่วงที่มีการระบาดของโรค ควรสวมหน้ากากอนามัย รักษาสุขอนามัยด้วยการล้างมือบ่อย ๆ และรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงจะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคได้

8.โรคเบาหวาน

          เมื่อร่างกายไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติได้ นั่นจึงทำให้คนเป็นเบาหวาน ซึ่งเบาหวานก็มีทั้งเบาหวานประเภทที่ 1 เบาหวานประเภทที่ 2 และเบาหวานในหญิงตั้งครรภ์ แต่โดยทั่วไปแล้วจะพบผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 2 (อินซูลินทำงานไปเป็นปกติ) มากที่สุด และผลของมันร้ายแรงถึงกระทั่งทำให้ตาบอด ไตวาย เป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือดในสมองได้เลย

          ป้องกันอย่างไรดี : ต้องควบคุมให้ระดับน้ำตาลในเลือดเป็นปกติ โดยการควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทานอาหารที่มีเส้นใยมาก ๆ ทำจิตใจให้ร่าเริงเบิกบาน อย่าให้เครียดหรือวิตกกังวล และหากมีญาติพี่น้องเป็นโรคเบาหวานต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

ปวดท้อง

9.โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก

          เชื่อไหมว่า โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มักพบได้บ่อยในผู้หญิง และเป็นมะเร็งที่ทำให้คนเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของทั่วโลก ที่สำคัญมักพบในประเทศที่มีการแข่งขันกันสูง เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ซึ่งอาจเป็นเพราะชีวิตที่เร่งรีบ ทำให้คนต้องรีบรับประทานอาหาร โดยไม่คำนึงถึงคุณค่าของอาหารที่บริโภคเข้าไป อีกทั้งยังไม่มีเวลาเข้าห้องน้ำขับถ่าย และยังเกิดความเครียดสะสม ส่งผลต่อลำไส้ได้ด้วย

          ป้องกันอย่างไรดี : ควบคุมน้ำหนักอย่าปล่อยให้ตัวเองอ้วน หรือทำพฤติกรรมที่จะทำให้เกิดความอ้วน และหยุดสูบบุหรี่ด้วย ทั้งนี้ มีการศึกษาพบว่า ผู้ที่ออกกำลังกายและรักษาหุ่นไม่ให้อ้วนจะสามารถป้องกันโรคนี้ได้ดีขึ้นถึง 75% เลยทีเดียว

10.มะเร็งปากมดลูก

          มะเร็งปากมดลูก ถือเป็นโรคร้ายอันดับแรกของสาวไทย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย อีกทั้งยังมีคู่นอนหลายคน และไม่รู้จักป้องกันตนเอง ทำให้ติดโรคได้ง่าย ๆ ทั้งนี้ ความน่ากลัวของมันอยู่ที่บางครั้งอาจไม่แสดงอาการอะไรเลยนานถึง 15 ปี กว่าจะทราบว่าตัวเองเป็นมะเร็งปากมดลูก โรคก็ลุกลามถึงระยะหลังที่ 3 ที่ 4 ซึ่งรักษาได้ยากแล้ว

          ป้องกันอย่างไรดี :

          ใช้ถุงยางอนามัย เมื่อมีเพศสัมพันธ์
          เข้ารับการตรวจภายในทุกปี โดยเฉพาะผู้หญิงที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม ส่วนสาวโสดที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ควรตรวจเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป
          ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ซึ่งควรจะฉีดก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก 

          เห็นความร้ายกาจของทั้ง 10 โรคนี้แล้ว คุณผู้หญิงทั้งหลายอย่าลืมรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง และตรวจสุขภาพเป็นประจำนะคะ
ที่มา K@POOK 

กินถั่วเหลืองลดคอเลสเตอรอลได้ดีที่สุด






กินถั่วเหลืองลดคอเลสเตอรอลได้ดีที่สุด

คนที่กินอาหารประเภทพืชตระกูลถั่วอย่างถั่วเหลือง อะโวคาโด น้ำมันกอกหรือข้าวโอ๊ตเป็นแระจำ จะมีคอเลสเตอรอลในร่างกายน้อยกว่าคนที่พยายามกินอาหาร Low-fat เพื่อควบคุมระดับคอเสเตอรอล

หลัง จากทำการทดลอง 6 เดือนในอาสาสมัครที่รับประทานอาหารประเภท Low-fat หรืออาหารที่มีคอเลสเตอรอลต่ำนั้น สามารถลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายลงได้ถึงร้อยละ 13 จากการอาหารปกติ ยิ่งไปกว่านั้นการศึกษาชิ้นใหม่ของสหรัฐอเมริกาพบว่า การกินอาหารประเภทที่มีเส้นใยสูง เมล็ดพืชหรือพืชตระกูลถั่วนั้น สามารถลดปริมาณคอเลสเตอรอลชนิดร้ายหรือ LDL (low density lipoprotein) ในร่างกายได้ดีมากกว่าการกินอาหาร Low-fat อย่างไม่น่าเชื่อ

ผลพิสูจน์จากการทดลองอีกชิ้นหนึ่งที่ทำโดยแบ่งคนเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งให้ทานอาหารที่มีถั่วเหลืองเป็นหลัก อีกกลุ่มหนึ่งให้ทานอาหารที่มีส่วนผสมจากนมโคเป็นหลัก เป็นเวลา 12 สัปดาห์ติดต่อกัน ผลการทดลองพบว่าทั้งสองกลุ่มต่างมีน้ำหนักลดลง แต่กลุ่มแรกจะมีน้ำหนักลดลงมากกว่า และระดับคอเลสเตอรอลก็ลดลงด้วย

ประโยชน์ของพืชตระกูลถั่วโดยเฉพาะถั่วเหลืองนั้น มีคุณค่าทางโภชนาการใกล้เคียงกับโปรตีนจากสัตว์ ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งของโปรตีนที่สูงแล้ว โปรตีนจากถั่วเหลืองสามารถลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและ ยังสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลและ LDL คอเลสเตอรอลได้อย่างดี

รายงาน 10 อันดับสิ่งสกปรกที่ถูกใช้บ่อยมากที่สุด

หากนึกถึงสิ่งสกปรกรอบๆตัว หลายคนคงชี้ไปยังห้องน้ำ หรือไม่ก็ลูกบิดที่แสนจะไกลตัวซะเหลือเกิน แต่ที่แท้จริงแล้วมันใกล้มากกว่านั้น หรืออาจเป็นเพราะมันแนบชิดสนิทติดตัวซะจนเรามองข้ามมันไป มาดูกันว่า "รายงาน 10 อันดับสิ่งสกปรกที่ถูกใช้บ่อยมากที่สุด" นั้นมีอะไรบ้าง

10. ฟองน้ำล้างจาน

ด้วยวัสดุและรูป ลักษณ์ของมันที่เต็มไปด้วยรูพรุนที่สามารถใหน้ำ อากาศ ออกซิเจน เศษอาหารเข้าไปอาศัยอยู่ จึงเป็นแหล่งชุมชนแออัดของเหล่าเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี วิธีทำความสะอาดง่ายๆก็คือ เอาไปต้มหรือให้ความร้อนผ่านไมโครเวฟซัก 60 วินาที

9. ซิ้งค์อ่างล้างจาน

เห็นสะอาดอย่างนี้ก็ใช่ ว่าจะสะอาด ถึงจะไม่ได้ใช้บ่อยเท่าอย่างอื่น แต่มันเป็นบริเวณที่สกปรกที่สุดในบ้าน ซึ่งแต่ละตารางนิ้วนั้นมีเชื้อโรคอาศัยอยู่ถึง 500,000 ตัว วิธีทำความสะอาดขจัดคราบที่คู่ควรกับตัวเลขห้าแสนนี้ ก็คือ ใช้โซดาไฟหรือน้ำส้มสายชูราดทำความสะอาดมันซะ แล้วตามด้วยน้ำเปล่าตามไปอีกที

8. อ่างอาบน้ำ

อ่างอาบน้ำเป็นรังเพาะเชื้อโรคชั้นดีที่หลายคนมองข้ามไป รู้อย่างนั้นแล้วเราจึงควรทำความสะอาดมันสัปดาห์ละครั้งเป็นอย่างน้อย

7. รีโมททีวี

อุปกรณ์บันเทิงประจำ ครัวเรือนที่เรามักจะลืมทำความสะอาดมัน ทั้งๆ ที่เราออกจะหยิบสอยใช้มันออกจะบ่อย ทำความสะอาดบ้านครั้งหน้าก็อย่าลืมหยิบรีโมทไปเช็ดถูกันบ้างนะ

6. ตะกร้าช้อปปิ้ง

ห้างสรรพสินค้ามีทุกสิ่ง ให้คุณเลือกสรร ฉันใดก็ฉันนั้น ตะกร้าช้อปปิ้งในห้างก็มีทุกสิ่งให้เชื้อโรคเลือกที่จะอยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะมาจากสินค้าที่อยู่ในห้างเอง เช่น ของสด ของแห้ง สารเคมี หรือมาจากมือของท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน ที่พึ่งจับราวบันไดเลื่อน หรือพึ่งออกมาจากห้องน้ำห้างมา

5. ฝาที่นั่งชักโครก

ความจริงมันน่าจะสกปรก ได้มากกว่านี้รึเปล่า แต่รู้หรือไม่ว่าฝาที่นั่งชักโครกนั้นมีการออกแบบวัสดุและพื้นผิว ให้ง่ายต่อการทำความสะอาดและยากที่เชื้อโรคจะอาศัยอยู่ แถมเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญ ในการทำความสะอาดอยู่เสมอ (ไม่เอื้ออำนวยขนาดนั้นก็ยังติด 1 ใน 10) โดยรายงานระบุว่า ทุกตารางนิ้วบนฝานั่งชักโครกมีเชื้อโรคอาศัยอยู่ถึง 295 ตัว

4. โทรศัพท์มือถือ

โทรศัพท์มือถือ เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ราคาแพงสำหรับเชื้อโรคเลยก็ว่าได้ ด้วยความเป็นพื้นที่สมบูรณ์ เพียบพร้อมไปด้วยปัจจัยความเจริญของเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิอุ่นๆ เหมือนร่างกายมนุษย์ที่เชื้อโรคชอบ พร้อมซอกซอยร่องหลืบง่ายต่อการกบดานหลบหนี พร้อมพรั่งด้วยโภชนาการและอาหารจากน้ำลายและขี้ไคลมนุษย์ ถ้าโทรศัพท์มีชีวิตเราอาจต้องพามันไปโรงพยาบาลเพื่อฉีดยาแทนที่จะไปมาบุญ ครองเพื่อไปซ่อมมันก็เป็นได้

3. คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์

คนติดคอม ติดเนทหลายๆคน คงคุ้นชินกับพฤติกรรมการกินขนมขบเคี้ยว หรือแม้กระทั่งกินอาหารมื้อหลักหน้าจอคอมพ์ หรือแม้กระทั่งสาวๆเองที่ชอบหวีผมแต่งหน้าบนโต๊ะทำงาน เวลาว่างก็เม้าท์พ่นไฟแชทหน้าเวบแคม รู้หรือไม่ ว่าคีย์บอร์ดนั้นเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี โดยเฉพาะเศษอาหาร ผิวหนัง เหงื่อไคลต่างๆ ที่ผู้ใช้คอมทำตกลงไปในคีย์บอร์ดแล้วไม่ค่อยให้ความสนใจ เนื่องจากเพราะมันตกลงไปในร่อง ทำให้ยากต่อการมองเห็นว่าสกปรกและยากต่อการทำความสะอาด เป็นที่มาว่าทำไมจึงไม่มีใครสนใจ จะทำความสะอาดกันเท่าไหร่นัก จึงทำให้คีย์บอร์ดกลายเป็นแหล่งหมักหมมเพาะพันธุ์เชื้อโรคชั้นดี รายงานระบุว่าคีย์บอร์ดที่ได้รับการสำรวจนั้นสกปรกกว่าฝานั่งชักโครกถึง 40 เท่า แต่ถึงขนาดต้องใช้วิกซอลเข้มข้น 40 เท่าราดคีย์บอร์ดเพื่อทำความสะอาดด้วยรึเปล่ารายงานไม่ได้ระบุไว้

2. สวิตช์เปิด/ปิดไฟ

"สุขภาพวันนี้...ต้อง เล่นกับไฟ" วัตถุที่มนุษย์สัมผัสบ่อยมากเท่าไหร่ เชื้อโรคก็ชอบตามไปอยู่มากเท่านั้น โดยเฉพาะปุ่มสวิทปิดเปิดไฟที่ต้องกดกันอยู่ทุกวัน ผู้เชี่ยวชาญเผยทุกๆ ตารางนิ้วบนสวิตช์ไฟที่เราเอานิ้วไปโดน เชื้อโรคสามารถย้ายสำมโนครัวตามติดมือไปได้ถึง 217 ตัว


1. เงิน ได้แก่ ธนบัตร เหรียญ

แบงค์ที่ เราหยิบจ่ายซื้อของกันอยู่ทุกวันนี้ มีเชื้อโรคอยู่ประมาณ 135,000 ตัว ถึงจะเชื่อว่าใครๆก็อยากมีเงินเยอะๆ จะได้รวยๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องสะสมเชื้อโรคไปตามความรวยด้วยนะ

ไม่ใช่แค่อาหารทำ“คอเลสเตอรอล” พุ่ง


สัปดาห์นี้มีผู้อ่านถามเรื่อง “คอเลสเตอรอล” เข้ามา โดยเล่าว่า ปกติไม่ค่อยได้ทานอาหารทะเลจำพวกหมึก หรือ มันกุ้งบ่อยนัก แต่กลับตรวจพบว่ามีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง จึงอยากทราบว่านอกจากอาหารแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นอีกหรือไม่

“คอเลสเตอรอลสูง” มีสาเหตุร่วมกันของหลายปัจจัย พบมากที่สุดจากเรื่อง “อาหาร” โดยการรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวมากเกินไป อาทิ อาหารเช้าสไตล์ฝรั่ง ทั้งเนื้อหมู เนื้อวัว นม ไข่ เนย ชีส คุกกี้ แครกเกอร์ และมันฝรั่งทอด เป็นต้น

“น้ำหนักตัว” ที่มากเกินไป ส่งผลต่อระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) ให้เพิ่มขึ้น และระดับคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL) ลดลง ทั้งนี้ ผลวิจัยจากต่างประเทศพบว่า น้ำหนักตัวที่ลดลง 10% จะช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าวได้

“กิจกรรมระหว่างวัน” การขาดการออกกำลังกายจะเพิ่ม LDL และลด HDL เช่นกัน ดังนั้น ควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที โดยอาจใช้การเดินเป็นประจำก็ได้

“อายุ และเพศ” เมื่อย่างเข้าสู่วัย 20 ระดับคอเลสเตอรอลตามธรรมชาติจะเริ่มเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ชายอายุ 45 ปีขึ้นไป และหญิงอายุ 55 ปีขึ้นไป ก็มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของคอเลสเตอรอล

“โรคประจำตัว” คอเลสเตอรอลสูงอาจเกิดจากโรคต่าง ๆ เช่น โรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน และ ไฮโปไทรอยด์ (Hypothyroidism) หรือ ภาวะที่ฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกายต่ำ รวมถึงโรคที่สามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ อย่าง ภาวะคอเลสเตอรอลสูงในครอบครัว (Familial Hypercholesterolemia) ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง

“สูบบุหรี่” จะส่งผลต่อระดับคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL) ลดลง ทำให้เส้นเลือดแดงแข็ง และมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจเพิ่มขึ้น

ดังนั้น นอกจากอาหารที่ต้องควบคุมแล้ว ยังต้องเลี่ยงปัจจัยดังกล่าวข้างต้นร่วมด้วย เพื่อลดอัตราเสี่ยงต่อการมีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง และการเกิดปัญหาสุขภาพได้.

จาก Daily New Online วันพฤหัสบดี ที่ 07 เมษายน 2554

นมัสการพระบาทพลวง ที่ เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชฌกูฏ

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชฌกูฏ

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชฌกูฏ

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชกุฏจันทบุรี


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ Mogmag, palungjit.com, easternthailand.com และ larndham.net


อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ หรือที่ใคร ๆ เรียกกันจนติดปากว่า "เขาคิชฌกูฏ" มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอมะขาม และกิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี และยังเป็นต้นน้ำสำคัญของแม่น้ำจันทบุรี สภาพป่าในบริเวณนี้มีทั้งป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา และป่าไม้ผลัดใบ มีสมุนไพรและกล้วยไม้ป่านานาชนิด รวมทั้งมีพันธุ์ไม้หายาก คือ ไม้กฤษณา และ เนื่องจากเป็นป่าที่อยู่ในเขตเทือกเขาสูงชัน จึงมีสัตว์ป่าชุกชุม เช่น กระทิง เสือ หมี กวาง เก้ง เลียงผา และนกชนิดต่าง ๆ นอกจากนี้ ตามลำห้วยยังมีปลาพลวง ปลาก้าง ปลาหนวด ปลาดุกรำพัน อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในบริเวณ อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ได้แก่ น้ำตกกระทิง, น้ำตกคลองช้างเซ, ยอดเขาพระบาท และที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษนั้น เห็นจะเป็นการนมัสการรอยพระบาทเขาคิชฌกูฏ หรือ พระบาทพลวง นั่นเอง

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชกุฏจันทบุรี


เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชฌกูฏ

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชฌกูฏ

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชฌกูฏ

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชฌกูฏ

เขาคิชกุฏจันทบุรี

พระบาทพลวง หรือ พระพุทธบาทพลวง ประดิษฐานอยู่บน เขาคิชฌกูฎ โดย พระบาทพลวง นี้ เป็นรอยพระพุทธบาทขนาดใหญ่ กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร อยู่บนยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร ที่จังหวัดจันทบุรี และถือว่าเป็นรอยพระพุทธบาทที่สูงที่สุดของประเทศไทย และอยู่ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 40 กิโลเมตร

ทั้งนี้ ประชาชนจะนิยมไปนมัสการพระบาทหลวงเป็นจำนวนมาก เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนถึงช่วงวันมาฆบูชาของทุกปี จะมีประชาชนขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาททั้งกลางวันและกลางคืน ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของเขาคิชฌกูฏ ก็ได้จัดงานนมัสการพระบาทพลวงเป็นประจำทุกปีอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ได้มีการจัด งานนมัสการพระบาทพลวง (เขาคิชฌกูฏ) โดยเปิดให้ขึ้นนมัสการ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 - วันที่ 4 เมษายน 2554 ณ บริเวณเขาคิชฌกูฎ ตำบลพลวง อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ส่วนพิธีบวชชีพราหมณ์ ระหว่างวันที่ 19 - 24 มกราคม 2554 และกำหนดพิธีบวงสรวงในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2554 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วัดกระทิง โทรศัพท์ 0-3945-2056

โดยการจัดเดินป่าขึ้นยอดเขาคิชฌกูฏ เป็นงานประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมานาน โดยมีความเชื่อว่าจะได้บุญสูง และเป็นการฝึกจิตใจให้มีความอดทน ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก...ในอดีตจะเป็นการเดินเท้าขึ้นสู่ยอดเขา แต่ในปัจจุบันมีรถบริการให้ประชาชน ได้เดินทางขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ได้สะดวกยิ่งขึ้น

ส่วน กิจกรรมในงานกราบสักการะรอยพระพุทธบาท ซึ่งประดิษฐานอยู่บนยอดเขาคิชฌกูฎ การเดินทางเริ่มต้นที่วัดพลวงไปตามถนนระยะทาง 8 กิโลเมตร จากนั้นเดินขึ้นเขาไปอีกประมาณ 1.2 กิโลเมตร ทิวทัศน์บนยอด เขาคิชฌกูฏ หรือ เขาพระบาท นี้เป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา ที่นำมาผูกกับตำนานทางพระพุทธศาสนา ได้แก่ ศิลาเจดีย์ รอยพระพุทธบาท หินรูปบาตรคว่ำ ถ้ำฤาษี ลานแข่งรถพระอินทร์ หินที่มีรูปร่างคล้ายเต่าและช้างขนาดยักษ์ บนยอดเขาพระบาทซึ่งมีอากาศเย็นสบายนั้น สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาสระบาป เขาสุกิม เกาะนมสาว และตัวเมืองจันทบุรีได้อย่างชัดเจน


เขาคิชฌกูฏ

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชฌกูฏ

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชฌกูฏ

เขาคิชกุฏจันทบุรี

ซึ่งในช่วงเทศกาลนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง พุทธศาสนิกชนที่มีศรัทธาจะเดินทางขึ้นเขาไปแสวงบุญเป็นจำนวนมาก เพราะนอกจากจะได้นมัสการพระพุทธบาทศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังจะได้ชมความงดงามแปลกอัศจรรย์ของหินลูกพระบาท ก้อนหินกลมใหญ่ริมหน้าผา และได้รับความสดชื่นจากบรรยากาศบนยอดเขาคิชฌกูฏ นอกจากนี้ ผู้ที่ถึงวัดพลวงตอนเย็น สามารถพักค้างคืนเพื่อเริ่มขึ้นยอดเขาในตอนเช้าได้ โดยทางวัดมีที่พัก และที่อาบน้ำไว้รองรับคนได้จำนวนมาก (ว้าว...)

สำหรับการเดินทางนั้นก็ง่ายแสนง่าย หากมาตามถนนสุขุมวิท ถึงทางแยกเข้าตัวเมืองจันทบุรี (สี่แยกเขาไร่ยา) ให้เลี้ยวลงถนนทางน้ำตกกระทิง หรือถนนบำราศนราดูร จากทางแยกเขาไร่ยา ไปถึงน้ำตกกระทิงประมาณ 20 กิโลเมตร เลยวัดระทิงไป 400 เมตร ถึงแยกขวามือไปวัดพลวง เป็นถนนลูกรังระยะทาง 3 กิโลเมตร เมื่อถึงวัดพลวง จะเป็นจุดเริ่มต้นขึ้นไปยังยอดเขา มีรถรับจ้างทดเฟืองพิเศษรับไปส่งถึงจุดที่ใกล้ที่สุด และเดินเท้าต่ออีกประมาณ 40 นาท

ทั้งนี้ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาคิดชฌกูฎ โทรศัพท์ 0-3945-2075, กิ่งอำเภอเขาคิดชฌกูฎ โทรศัพท์ 0-3945-2437 หรือ องค์การบริหารส่วนตำบลพลวง โทรศัพท์ 0-3930-9281