สุดยอดสมุนไพรช่วยย่อยอาหาร

สมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพ นอกจากที่รสชาติอร่อยถูกปากแล้วแถมบ่อยครั้งที่ช่วยเยียวยาอาการต่างๆ ได้โดยไม่ต้องพึ่งพายา วันนี้มีสมุนไพรที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีมาฝากคนที่มัก จะมีอาการท้องอืดท้อง เฟ้อ จุกเสียดแน่นเป็นประจำ


กระเทียม

กระเทียมเป็นสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพหลายด้าน เมื่อรับประทานเข้าไป สารในกระเทียมจะช่วยเพิ่มน้ำย่อยและน้ำดี ช่วยในการย่อยอาหาร และยังแก้อาการปวดท้องเนื่องจากอาหารไม่ย่อย มีของฝากพิเศษสำหรับคนที่มีอาการจุกเสียดแน่นเนื่องจ ากอาหารไม่ย่อยอยู่ บ่อยๆ ให้นำกระเทียมปอกเปลือก นำเฉพาะเนื้อใน 5 กลีบ ซอยให้ละเอียด รับประทานกับน้ำหลังมื้ออาหาร อาการจะค่อยๆ หายไป

หอมเล็ก

มีฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ไกลโคไซด์ (Glycosides) เพคติน (Pectin) และกลูโคคินิน (Glucokinin) ช่วยย่อยอาหารและทำให้เจริญหาอาหาร หอมเล็กสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด โดยเฉพาะยำต่างๆ

พริกสด

พริกทุกชนิดไม่ว่าจะเผ็ดมากเผ็ดน้อย ก็ช่วยกระตุ้นการหลั่งของน้ำลายให้ออกมามาก ซึ่งเอนไซม์ในน้ำลายนี้จะช่วยย่อยสลายแป้งในปาก นอกจากนี้ยังพบว่าพริกขี้หนูรสเผ็ดร้อน ช่วยย่อย ช่วยเจริญอาหาร และขับลมได้ดี พริกอยู่ในสำรับไทยหลากหลายเมนู แต่อย่าเผลอกินเผ็ดจนท้องไส้ปั่นป่วนนะคะ

ข่า

ข่ามีฤทธิ์ขับน้ำดี จึงช่วยย่อยอาหารเช่นกัน วิธีที่ดีที่ทำให้เรากินข่าได้อร่อยเหมือนผักอื่นๆก็ คือ เวลานำข่ามาใส่อาหารให้หั่นข่าเป็นชิ้นเล็กๆ

ตะไคร้

ตะไคร้มีสารช่วยในการขับน้ำดีมาช่วยย่อย ถ้าจะให้กินตะไคร้สดๆก็คงไม่น่าอร่อยเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นน้ำพริกตะไคร้หรือชาตะไคร้ ก็อร่อยไม่เบา

ใบแมงลัก

ใบแมงลักมีกลิ่นหอมเป็นลักษณะเฉพาะ หอมโล่งจมูก และน้ำมันหอมระเหยหอมๆนี้เองที่มีฤทธิ์ในการช่วยย่อยอาหาร คุยเรื่องใบแมงลักก็คิดถึงแกงเลียงทุกที

ใบกะเพรา

มีฤทธิ์ขับน้ำดีออกมาช่วยย่อยอาหารที่เรากินเข้าไป

สมุนไพร ทั้ง 7 ชนิด นี้ หากเลือกกินอย่างเหมาะสม ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องการย่อยมากวนใจ ทางที่ดี ปลูกไว้ในบ้านก็ได้ เพราะปลูกง่ายทุกชนิด

มะเขือเทศอาหารวิเศษเพื่อสุขภาพ

มะเขือเทศฝานบางๆ สีแดงอมส้มสดใสน่ากินมักกลายเป็นเครื่องประดับอาหารจานอร่อยหลากหลายรายการ เป็นต้นว่าข้าวผัด ยำต่างๆ ของทอด ของว่างต่างๆ โดยที่บางท่านไม่แตะต้องมันเลยสักชิ้น

แต่คุณรู้บ้างไหมว่าถ้าคุณรับประทานมะเขือเทศเพียงวันละ 1-2 ผลเท่านั้น จะให้ประโยชน์ต่อร่างกายของคุณมากมายมหาศาลเพียงใด

ต้านโรคความดันโลหิตสูง บำรุงดวงตา บำรุงสายตา บำบัดอาการปัสสาวะขัด บำรุงเหงือกและฟัน ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัวเยียวยาโรคเลือดออกตามไรฟัน ต้านทานโรคภัยไข้เจ็บ คุ้มกันไม่ให้เป็นหวัดง่าย แก้ท้องผูก บำรุงผิวพรรณ

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ถ้าคุณรับประทานมะเขือเทศเป็นประจำสม่ำเสมอ วันละ 1-2 ผลทุกวัน สุขภาพของคุณก็จะสดชื่นแข็งแรงและได้ประโยชน์จากสรรพคุณอันแสนวิเศษของ มะเขือเทศทั้งหมดนั้นอย่างแน่นอน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : thai-healthcare.com

ภาพประกอบจาก : www.photos.com

10 อันดับสุนัขเฝ้ายาม

สุนัขตามสัญชาติญาณแล้วเป็นสัตว์ดุ คนมักชอบเลี้ยงไว้เฝ้าบ้านวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับสุนัขเฝ้ายาม 10 อันดับกันค่ะ


อันดับที่ 10 The German Shepherd

มีถิ่นกำเนิด ในประเทศเยอรมันมีชื่อเรียก อีกอย่างหนึ่งว่า "อัลเชเชี่ยน" เป็นสุนัขที่ถูกพัฒนาทั้งทาง ด้านโครงสร้างและจิตใจให้มี ความพร้อมในการทำงานได้ อย่างดีเยี่ยม เป็นสุนัขที่มี พละกำลังมาก ขณะยืนครอบ คลุมพื้นที่ได้มาก ช่วงก้าว ยาวทำให้สามารถเดิน-วิ่งใน ระยะทางไกล ๆ ได้

เป็นสุนัขที่ประกอบด้วยกล้ามเนื้อการ เดินการวิ่งมีความสัมพันธ์ ต่อเนื่องกันไม่ว่าขณะยืน หรือเคลื่อนที่มีความสง่างาม ปัจจุบันสุนัขพันธุ์นี้เป็นที่นิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย ทั่วโลก สามารถปรับตัวเข้ากับสภาวะอากาศแบบต่าง ๆ ได้ นิยมใช้ในกิจกรรมของทหาร ตำรวจ รักษาความปลอดภัย ตลอดจนเฝ้าบ้านหรือนำทางคนตาบอด

อุปนิสัย ฉลาด กล้าหาญ มีจิตใจมั่นคง ไม่ตื่นตกใจง่าย แม้แต่เสียงปืน จึงเป็นสุนัขที่นิยมฝึกใช้ใน การสงครามหรือตำรวจมากที่สุด ส่วนหัว มีความสง่างาม ดูมั่นคงแข็งแรง เพศผู้จะมีส่วนหัวที่มีลักษณะเข้มแข็ง น่าเกรงขามกว่า เพศเมีย หัวกะโหลกจะเชื่อมต่อกับปากอย่างกลมกลืนกัน ส่วนหัวมีขนาดสัมพันธ์กับขนาดของลำตัว

อันดับที่ 9 Doberman Pinscher

โดเบอร์แมน หรือ โดเบอร์แมนน์ มีถิ่นกำเนิดในเยอรมันในศตวรรษที่ 19 นายฮอร์ ลูอิส โดเบอร์แมนน์ อาศัยอยู่ในเมืองอพอลโด(เยอรมันตะวันออก)ในอาณาจักรของเธอริงเจนเขารับ ราชการเป็นผู้เก็บภาษีที่มีสุนัขคอยดินตามปกป้องเขา นายฮอร์โดเบอร์แมนน์ต้องการสุนัขเฝ้ายามที่ปราศจากความกลัวจึงเริ่มต้นคัด เลือกสุนัขเพื่อทำการเพาะพันธุ์ให้ได้สุนัขตามที่เขาต้องการ

ไม่มีใครรู้แน่ว่าเขาผสมโดยใช้สายพันธุ์ใดบ้างแต่ได้ยินว่าอาจเป็นเก รตเดน เยอรมันเชพเพิร์ดสายดั้งเดิมไม่ใช่เยอรมัน เชพเพิร์ดที่เรารู้จักในปัจจุบัน) ไวมาราเนอร์ แมนเชสเตอร์เทอร์เรีย์เกรยฮาวนด์และพันธุ์อื่นๆ อีกมากมายตลอดชีวิต 60 ปีกับการผสมข้ามสายพันธุ์นายเฮอร์โดเบอร์แมนน์ ประสบความสำเร็จอย่างมากในการคัดเลือกสายพันธุ์เพื่อใช้เป็นสุนัขเฝ้ายามที่ ต้องการหน่วยเมริกันมารีนส์รู้จักโดเบอร์แมน กันในนาม"สุนัขปีศาจ"และใช้มันเป็นสัญลักษณ์ของหน่วยในช่วงสงครามโลกครั้ง ที่ 2 ในแปซิฟิค โดยถูกนำขึ้นฝั่งพร้อมกับทหารเรือเพื่อไล่ล่าศัตรู

อันดับที่ 8 Rottweiler

รอตต์ไวเลอร์ เป็น หนึ่งในสายพันธุ์พันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุด เนื่องจากมีที่มาตั้งแต่ยุคโรมัน สุนัขเหล่านี้ถูกใช้เป็นสุนัขเฝ้าหรือไล่ต้อนฝูงสัตว์รอตต์ไวเลอร์ ต้องเดินข้ามเทือกเขาแอลป์พร้อมกับกองทหารโรมันขนาดใหญ่ เพื่อคอยปกป้องคนและไล่ต้อนฝูงปศุสัตว์

ต้นของศตวรรษที่ 20 ได้มีการนำสุนัขสายพันธุ์ต่างๆ มาทดสอบเพื่อใช้ในงานของตำรวจและรอตต์ไวเลอร์ ก็เป็นที่ยอมรับว่าเป็นสายพันธุ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับภาระกิจนี้และเพราะ ฉะนั้นสายพันธุ์นี้จึงได้รับการรับรองให้ใช้เป็นสุนัขตำรวจใน 1910 อย่างเป็นทางการ

อันดับที่ 7 Pyrenean Mountain Dog

สุนัขพันธุ์นี้อาจเรียกอีกชื่อ หนึ่งว่า PYRENEAN MOUNTAIN DOG เป็นสุนัขที่ได้รับ เกียรติอย่างสูงจากชาวฝรั่งเศส มีผู้พบฟอสซิลของสุนัขพันธุ์นี้ซึ่ง สันนิษฐานว่าเกิดในยุค ทองเหลือง หรือ ประมาณปี 1800-1000 BC.มีผู้สันนิษฐาน ว่าสุนัขพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดใน ทวีปเอเซีย แล้วแพร่เข้าไปในยุโรปโดยพ่อค้าชาวอารยัน

ในสมัยก่อนทหารชาวฝรั่งเศส นิยมใช้สุนัขพันธุ์ นี้เป็นสุนัขอารักขาด้วย และในช่วงสงคราม โลกครั้งที่ 1 ยังได้นำสุนัข พันธุ์นี้ไปใช้ลาก เลื่อน และกิจกรรมต่าง ๆ ในบริเวณชายแดน ของฝรั่งเศสและสเปน

อันดับที่ 6 Greater Swiss Mountain Dog

เป็นสุนัขในประเภทเกรทเดน กลุ่มสุนัขใช้งาน (Working Breeds)


อันดับที่ 5 The Moscow Watchdog

หมาพันธุ์นี้ เป็นผลผลิตของกองทัพแดงครับ พวกเขาสร้างมันขึ้นมาเพื่อใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องการให้มันทำหน้าที่เป็นยาม คอยข่มขวัญให้คนกลัว อะไรทำนองนั้น เพราะมันตัวใหญ่ดี ขณะเดียวกันมันก็ไม่งุ่มง่ามเหมือนหมาตัวใหญ่ๆทั้งหลายแหล่ มันก็เลยได้ชื่อว่า Watchdog

โดยพวกเขาผสมมันขึ้นมาจากหมาเซ็นต์ เบอร์นาร์ด ที่เด่นในเรื่องของตัวโต และความสุภาพอ่อนโยน กับคอเคเชี่ยน เซฟเฟิร์ด ที่เด่นเรื่องความมุ่งมั่น รอบคอบ และดุร้าย และ รัสเซี่ยน สป็อต ฮาวน์ด แต่ถ้าดูลักษณะภายนอก รากเหง้าของมันที่เห็นเด่นชัดก็น่าจะเป็น เซ็นต์เบอร์นาร์ด เพราะมันตัวใหญ่มาก หนักระหว่าง 45 - 68 กิโลกรัม และสูงได้ถึงเกือบ 70 เซ็นติเมตร ที่ต่างจากเซ็นต์เบอร์นาร์ดก็คือมันต้องการการออกกำลังอย่างมาก

อันดับที่ 4 Boerboel

หมาเฝ้ายามยอดเยี่ยม เป็นหมาสงบ เชื่อฟังเจ้าของ ฉลาด มีสัญชาติญานเฝ้าระวังสูง รักเด็กอีกต่างหาก ตัวจริง ๆ เป็นหมาตัวโต นิสัยนุ่มนิ่มน่ารักเหมือนตุ๊กตาหมี ฉลาดมาก สอนง่าย สอนทริกใหม่ ๆ ไม่เกินสิบ-สิบห้านาทีก็ทำได้ ขี้เล่น ร่าเริง ใจดีกับคนแก่ เด็กและลูกหมาเล็ก ๆ เล่นกับหมาตัวอื่นได้ทุกตัว ไม่เคยออกอาการก้าวร้าว รักและหวงเจ้าของมาก เวลาไปเดินเล่นในป่าแบบไม่มีสายจูง จะไม่วิ่งหายไปไหนและไม่ยอมให้เจ้าของคลาดสายตา

สภาพแวดล้อมที่เหมาะกับหมาพันธุ์นี้คือบ้านที่มีพื้นที่สนามกว้างพอที่จะ ให้ หมานั่งเฝ้านอนเฝ้า ข้อควรระวัง ไม่ใช่หมาสำหรับมือใหม่หัดเลี้ยงด้วยประการทั้งปวง เพราะตัวใหญ่ แรงเยอะ และฉลาดมาก ถ้าเลี้ยงไม่ถูกต้องหรือเจ้าของไม่ทำหน้าที่จ่าฝูง หมาจะกลายเป็นหมาก้าวร้าวและสร้างปัญหาให้กับคนอื่นได้

ห้ามลงโทษหมาด้วยการตีอย่างเด็ดขาด เพราะหมามันจะนึกว่าเราเล่นด้วยแล้วมันก็จะเล่นแรง ๆ ตอบกลับมา วิธีดีที่สุดที่จะฝึกหมาใหญ่แรงเยอะคือเพิกเฉยกับพฤติกรรมที่เราไม่ต้องการ และให้รางวัลกับพฤติกรรมที่ถูกต้อง

อันดับที่ 3 Argentinian Mastiff

สุนัขพันธุ์นี้ ก็เป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่อีกชนิดหนึ่งที่จะนำมาเล่าสู่กันฟัง โดยเริ่มต้นจากนิสัยกันเลยดีกว่า เพราะเจ้าสุนัขพันธุ์ โดโก้ อาร์เจนติโน (DOGO Argentino) นั้นถ้าเทียบแล้วจะเป็นเป็นเพื่อนที่วิเศษมากอีกสายพันธุ์หนึ่งเลยทีเดียว

โดยพื้นฐานแล้วนั้น สุนัขพันธุ์ โดโก้ อาร์เจนติโน (DOGO Argentino) จะเป็นมิตรที่ดี และจะคอยปกป้องเจ้าของ และที่สำคัญยังเข้ากับเด็ก ๆ ได้ดีอีกด้วย สุนัขพันธุ์ โดโก้ อาร์เจนติโน (DOGO Argentino) นี้ ได้มีการพัฒนาขึ้นในเรื่องของจิตใจที่มั่นคง และแน่วแน่ พร้อมทั้งรูปร่างลักษณะที่ใหญ่โต ล้วนแต่มีกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ

สุนัขพันธุ์ โดโก้ อาร์เจนติโน (DOGO Argentino) จึงเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเลี้ยงไว้เพื่อปกป้องเจ้าของและสถานที่ โดยดูจากรูปร่างและพละกำลังของเค้า จึงเหมาะที่จะเป็นนักล่าอีกด้วย

อันดับที่ 2 Cane Corso

เครน คอร์โซ่ (Cane Corso) เป็น สุนัขสายพันธุ์พื้นเมืองของอิตาลี ลักษณะภายนอกมองดูคล้ายกับสุนัขนโปเลียน มัสตีฟ สุนัข เครน คอร์โซ่ ถือเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่อีกสายพันธุ์หนึ่งที่มีความซื่อสัตย์ต่อเจ้าของอย่าง มาก ในบ้านเราก็มีการเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้อยู่บ้าง แต่ปริมาณน้อยมาก

การจะเลี้ยงสุนัข เครน คอร์โซ่ ไว้ในบ้านสักหนึ่งตัวนั้น หากสถานที่เลี้ยงเป็นห้องชุดหรือเป็นทาวน์เฮ้าส์คงไม่เหมาะที่จะเลี้ยงสุนัข พันธุ์นี้อย่างแน่นอน เพราะเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ เมื่อโตเต็มที่ เครน คอร์โซ่ จะมีความสูงประมาณ 80 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 45 กิโลกรัม

ดังนั้น จึงจำเป็นต้องใช้พื้นที่ในการวิ่งออกกำลังกายค่อนข้างมาก หากบ้านเป็นพื้นที่ที่มีทุ่งหญ้ากว้างหรือใกล้ชายหาดจะมีความเหมาะสมเป็น อย่างมาก เพราะ เครน คอร์โซ่ เป็นสุนัขที่ชอบว่ายน้ำเพื่อแสดงออกโดยการใช้พลังในตัวอย่างเต็มที่

อันดับที่ 1 Caucasian Shepherd

เป็นสายพันธุ์โบราณ เลี้ยงแกะมาเป็นพันๆ ปี สามารถปกป้องฝูงแกะจาก หมี และ ต่อสู้สุนัขป่าได้ทั้งฝูง มีความฉลาดเป็นเลิศ คิดเองทำเอง กองทัพรัสเซียใช้ในสมรภูมิ ส่วนในเยอรมัน ใช้เดินยามบนกำแพงเบอรลินหลายชั่วอายุ

จนกระทั่งเมื่อทลายกำแพงเมื่อ สิบกว่าปีที่ผ่านมา จึงต้องปลดระวาง Working Dogs ทั้งหมด 7,000 ตัว ทางการได้ให้ ผู้ดูแลนำสุนัขกลับไปเลี้ยง และ เพาะพันธุ์เผยแพร่ต่อไป ปัจจุบันนี้ นิยมใช้สุนัขพันธุ์นี้ เฝ้าโรงงงาน หรือ โกดัง หรือ ฐานทัพ เพราะดุมาก และ ฉลาด


ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพประกอบจาก http://www.toptenthailand.com

5 น้องหมา ฉลาดที่สุดในโลก



5 น้องหมาที่ฉลาดที่สุดในโลก (Lisa)

สัตว์หน้าขนที่มีหัวใจใสซื่ออาจมีสมองมากกว่าที่เราคิด และถ้าใครอยากได้เพื่อนรู้ใจฉลาด ๆ สักตัว ลองมองพวกเขาเหล่านี้หน่อยละกันนะ



1. บอร์เดอร์ คอลลี่ เจ้าตูบตัวนี้จะอยู่ไม่สุข ถ้าเราไม่มอบหมายงานให้มันทำ และด้วยความฉลาดเป็นอันดับหนึ่ง มันจึงถูกฝึกในงานยาก ๆ ที่ต้องใช้ทั้งความว่องไวและวินัย แถมยังเลี้ยงแกะได้เป็นที่หนึ่ง



2. พูเดิ้ล พูเดิ้ลพันธุ์มาตรฐานนั้นฉลาดมาก ๆ และก็ฝึกง่าย พวกมันชอบอยู่ใกล้ ๆ คน เป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ดี และบางตัวอาจถูกฝึกให้ช่วยล่าสัตว์ได้ด้วยซ้ำ โดยรวมแล้วถือเป็นน้องหมาที่มีความสุขและเซนซิทีฟพอสมควรเลยล่ะ
3. เยอรมันเชพเพิร์ด ในหมู่สุนัขด้วยกัน สายพันธุ์นี้ขึ้นชื่อเรื่องความกล้าหาญ จงรักภักดี แถมยังฉลาดไม่แพ้ใคร เราจึงมักจะเห็นมันรับหน้าที่สำคัญอย่างเป็นสุนัขตำรวจหรือสุนัขตรวจหาสิ่ง เสพติด




4. โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ หนึ่ง ในน้องหมาที่คนนิยมมากที่สุดในโลก ทั้งซื่อสัตย์ อดทน เข้ากับเด็ก ๆ ได้ดี กระตือรือร้น มีวินัย ฝึกง่าย ...ถามจริงเถอะ ยังต้องการอะไรจากสุนัขอีก


5. โดเบอร์แมน พินสเซอร์ เห็นหน้าดุ ๆ แต่โดเบอร์แมนก็ซื่อสัตย์ มันชอบทำงาน และมีความอดทนสุด ๆ บางตัวที่ค่อนข้างเชื่องก็อาจถูกนำมาฝึกเป็นสุนัขที่ใช้ในการบำบัด และเจ้าดำของคุณจะไม่ดุร้าย แต่เชื่อใจได้เสมอ เรื่องเฝ้าบ้านและปกป้องเจ้านาย

















































































กินปลาช่วยป้องกันตาบอดในวัยชรา


จาก การศึกษาการรับประทานอาหารของคนจำนวน 1,000 คน ผลวิจัยพบว่า โอเมก้า3 ที่อยู่ในปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า จะช่วยป้องกันโอกาสสูญเสียดวงตาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุได้ นักวิทยาศาสตร์ศึกษาโภชนาการของผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป พบว่าผู้ที่กินอาหารทะเลเป็นประจำจะช่วยลดการเสื่ยมสภาพของเซลล์จอประสาทตา
ที่ในขณะนี้ยังไม่สามารถรักษาให้หายได้ ซึ่งมีผลกระทบกับหนึ่งในสามของชาวอังกฤษที่มีอายุ 75 ขึ้นไป มันจะค่อยๆ ทำให้สูญเสียการมองเห็น พวกเขาไม่สามารถเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าในการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น อ่านหนังสือ การเขียนหนังสือ การขับรถ และดูโทรทัศน์
มีประชาชนชาวอังฤษกว่า 240,000 คน มีความบกพร่องของสายตา ในการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกา จากการสำรวจอาสาสมัครจำนวน 2,400 คน อายุระหว่าง 65-84 ผู้ที่รับประทานน้ำมันปลาและสัตว์น้ำที่มีเปลือก โดยเฉพาะปู หอยนางรมและหอยแมลงภู่ 2 ครั้งต่อสัปดาห์หรือมากกว่านั้นจะช่วยลดความเสี่ยงลง ข้อมูลจากวารสารจักษุวิทยา โอเมก้า3 จะช่วยปกป้องเซลล์จอตาที่ถูกทำลายจากแสงแดดซึ่งเกิดขึ้นเรื่อยๆตามอายุ ผลการวิจัยจากวิลเมอร์ อาย ซึ่งเป็นหน่วยงานในมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์
พบว่า โอเมก้า3 จะช่วยชะลอกระบวนการเสื่อมสภาพของจอประสาทตา ผู้นำการวิจัย ดร.ไชลา เว็ท กล่าวว่า ผู้เข้าร่วมการวิจัยถูกควบคุมให้รับประทานอาหารทะเลจำพวกปลาและสัตว์น้ำที่ มีเปลือก 1 มื้อต่อสัปดาห์ มีนัยยะสำคัญมากกว่าการรับประทานโอเมก้า 3 จากปลาและอาหารทะเล กรดไขมันโอเมกา 3 ช่วยลดความดันเลือดและความเสี่ยงจากการเต้นของจังหวะหัวใจที่ผิดปกติ
ช่วยลดไขมันอุดตันในเส้นเลือดและช่วยลดระดับของไตรกลีเซอไรด์ที่จะนำไปสู่โรคหัวใจ
ข้อมูลจาก: เดลี่เมลล์ออนไลน์


กินปลาช่วยป้องกันตาบอดในวัยชรา


จาก การศึกษาการรับประทานอาหารของคนจำนวน 1,000 คน ผลวิจัยพบว่า โอเมก้า3 ที่อยู่ในปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า จะช่วยป้องกันโอกาสสูญเสียดวงตาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุได้ นักวิทยาศาสตร์ศึกษาโภชนาการของผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป พบว่าผู้ที่กินอาหารทะเลเป็นประจำจะช่วยลดการเสื่ยมสภาพของเซลล์จอประสาทตา
ที่ในขณะนี้ยังไม่สามารถรักษาให้หายได้ ซึ่งมีผลกระทบกับหนึ่งในสามของชาวอังกฤษที่มีอายุ 75 ขึ้นไป มันจะค่อยๆ ทำให้สูญเสียการมองเห็น พวกเขาไม่สามารถเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าในการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น อ่านหนังสือ การเขียนหนังสือ การขับรถ และดูโทรทัศน์
มีประชาชนชาวอังฤษกว่า 240,000 คน มีความบกพร่องของสายตา ในการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกา จากการสำรวจอาสาสมัครจำนวน 2,400 คน อายุระหว่าง 65-84 ผู้ที่รับประทานน้ำมันปลาและสัตว์น้ำที่มีเปลือก โดยเฉพาะปู หอยนางรมและหอยแมลงภู่ 2 ครั้งต่อสัปดาห์หรือมากกว่านั้นจะช่วยลดความเสี่ยงลง ข้อมูลจากวารสารจักษุวิทยา โอเมก้า3 จะช่วยปกป้องเซลล์จอตาที่ถูกทำลายจากแสงแดดซึ่งเกิดขึ้นเรื่อยๆตามอายุ ผลการวิจัยจากวิลเมอร์ อาย ซึ่งเป็นหน่วยงานในมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์
พบว่า โอเมก้า3 จะช่วยชะลอกระบวนการเสื่อมสภาพของจอประสาทตา ผู้นำการวิจัย ดร.ไชลา เว็ท กล่าวว่า ผู้เข้าร่วมการวิจัยถูกควบคุมให้รับประทานอาหารทะเลจำพวกปลาและสัตว์น้ำที่ มีเปลือก 1 มื้อต่อสัปดาห์ มีนัยยะสำคัญมากกว่าการรับประทานโอเมก้า 3 จากปลาและอาหารทะเล กรดไขมันโอเมกา 3 ช่วยลดความดันเลือดและความเสี่ยงจากการเต้นของจังหวะหัวใจที่ผิดปกติ
ช่วยลดไขมันอุดตันในเส้นเลือดและช่วยลดระดับของไตรกลีเซอไรด์ที่จะนำไปสู่โรคหัวใจ ข้อมูลจาก: เดลี่เมลล์ออนไลน์


6 อาหารโภชนาการ ..บูรณาการเซ็กซ์


ใคร ว่าพอทานอาหารเสร็จหนังท้องต้องตึง หนังตาต้องหย่อนทุกครั้ง เป็นไปไม่ได้หรอก เพราะถ้าได้กินของดี มีคุณภาพ และมีอานุภาพในการทำรักสูงอย่างอาหารพวกนี้แล้วล่ะก็ ไม่แน่เวลาของคุณทั้งสองคนอาจมีทดเวลาพิเศษ จนเช้ามางัวเงียเลยก็ได้

เรื่อง อาหารการกินเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะทำให้ร่างกายของเรานั้นแข็งแรง อย่างที่ทุกๆ คนเรียนกันมาตั้งแต่เด็กๆ นี่แหละว่าอาหารนั้นต้องกินให้ครบ 5 หมู่ จะได้ไม่เป็นโรคต่างๆ แต่วันนี้มาเรียนรู้หมวดหมู่อาหารแบบใหม่ ตามประสาผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะแล้วบ้างดีกว่า เพราะอาหารเหล่านี้นอกจากจะมีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ในส่วนของอารมณ์ที่ยากแท้หยั่งถึงของมนุษย์เรา ก็สามารถช่วยให้คู่รักหลายคู่ อิ่มเอมกับภารกิจสะกิดต่อมความสุข จนสบายอุรา ไม่ต้องพึ่งพายาให้ตับต้องทำงานหนักอีกต่อไป

Watermelon ..จ้อน

ไม่ รู้ก็ได้รู้แล้ว ว่าผลไม้ที่อุดมไปด้วยน้ำอย่างแตงโม นอกจากจะช่วยคลายร้อน ดับกระหายแล้ว ยังมีสารอาหารชั้นยอดที่ไปกระตุ้นให้เอนไซม์ในเลือดนั้นสูบฉีดทั่วร่างกาย ยังไงก็ไม่ตายด้าน จนคุณทั้งสองล่อนจ้อนสมชื่อเลยล่ะ ฮ่าๆ

Seafood ..ฟ. ฟัน

อาหาร ทะเลนอกจากจะย่อยง่าย และอร่อยถูกปาก ยังเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับการเสริมพลังจากภายในให้ลื่นไหลสู่ภายนอก แต่ไม่ใช่แค่หอยนางรมที่หลายๆ คนรู้กันอย่างเดียวนะ เพราะพวกกุ้ง ปู ปลา ฯลฯ สดๆ จากทะเลก็เหมือนกัน ที่มีโปรตีน, โอเมก้า 3 และกรดไขมันที่ช่วยเสริมการไหลเวียนของเลือด อีกทั้งยังเพิ่มระดับฮอร์โมนของเพศชายให้อยู่ในสภาพพร้อมเปิดศึกได้อย่าง สมบูรณ์แบบ

Avocados .. เนเวอร์ดาย













ไม่ มีทางสิ้นชีวีคาอก เพราะโรคหัวใจวายแน่นอน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ชาย เพราะสารอาหารทั้งไฟเบอร์,โฟเลต,กรูตาไทโอน,วิตามิน B6,C และ E ในผลอะโวคาโดจะช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง ต่อให้เต้นจังหวะร้อนแรงยังไงก็รอด

Ginger..จ้ำจี้

ขิง เป็นวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการประกอบอาหารของคนเอเชียมาช้านาน ซึ่งในตำรากามสูตรยังระบุไว้ด้วยว่า ขิงนั้นเป็นสุดยอดแห่งอาหารเร้าอารมณ์ทางเพศได้อย่างดี เพราะจะช่วยบำรุงระดับการเต้นของหัวใจ และให้เลือดไหลเวียนสูบฉีดถึงขีดสุดไปทั่วร่างกาย โดยเฉพาะที่จุดยุทธศาสตร์แห่งการจ้ำจี้ของคุณทั้งคู่

Rosemary ..สกินแคร์

สมุนไพร ฝรั่งที่มักจะเอามาใช้ในการประกอบอาหาร อย่าคิดว่าจะมีดีแค่ความหอมเวลาได้ลิ้มลองเมื่ออยู่ในจานสเต๊ก หรือข้าวที่หุงใหม่ๆ นะ เพราะสมุนไพรชนิดนี้ เปรียบเสมือนผลิตภัณฑ์สกินแคร์จากธรรมชาติที่จะช่วยให้ผิวหนังมีความไวต่อ ความรู้สึกเวลาถูกสัมผัสได้มากกว่าเดิม หนุ่มๆ คนไหนที่แฟนไม่ค่อยมีปฏิกิริยาโต้ตอบเวลาคุณเล้าโลมเธอ ก็ต้องให้เธอทานมากขึ้นนะ แต่ไม่ใช่กินสดๆ ล่ะ ลองนำไปทำเมนูอื่นๆ หรือเครื่องดื่มสักแก้วก็ได้

Chilies ..ขยี้อารมณ์

ขึ้น ชื่อว่าพริกมันก็ทั้งเผ็ด ทั้งร้อน และความเผ็ดร้อนนี่แหละที่จะช่วยให้ร่างกายของคุณมีเลือดสูบฉีดตามร่าง กายอย่างเต็มที่ในขณะที่คุณทั้งสองกำลังเล่นบทรักกันอยู่ ทำให้คุณทั้งสองมีความรู้สึกตื่นเต้น รวมทั้งเป็นการเพิ่มอรรถรสในการสร้างความสุขให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้นด้วย.

ไทยรัฐออนไลน์ : วันอาทิตย์ 26 กันยายน 2553