รายงาน 10 อันดับสิ่งสกปรกที่ถูกใช้บ่อยมากที่สุด

หากนึกถึงสิ่งสกปรกรอบๆตัว หลายคนคงชี้ไปยังห้องน้ำ หรือไม่ก็ลูกบิดที่แสนจะไกลตัวซะเหลือเกิน แต่ที่แท้จริงแล้วมันใกล้มากกว่านั้น หรืออาจเป็นเพราะมันแนบชิดสนิทติดตัวซะจนเรามองข้ามมันไป มาดูกันว่า "รายงาน 10 อันดับสิ่งสกปรกที่ถูกใช้บ่อยมากที่สุด" นั้นมีอะไรบ้าง

10. ฟองน้ำล้างจาน

ด้วยวัสดุและรูป ลักษณ์ของมันที่เต็มไปด้วยรูพรุนที่สามารถใหน้ำ อากาศ ออกซิเจน เศษอาหารเข้าไปอาศัยอยู่ จึงเป็นแหล่งชุมชนแออัดของเหล่าเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี วิธีทำความสะอาดง่ายๆก็คือ เอาไปต้มหรือให้ความร้อนผ่านไมโครเวฟซัก 60 วินาที

9. ซิ้งค์อ่างล้างจาน

เห็นสะอาดอย่างนี้ก็ใช่ ว่าจะสะอาด ถึงจะไม่ได้ใช้บ่อยเท่าอย่างอื่น แต่มันเป็นบริเวณที่สกปรกที่สุดในบ้าน ซึ่งแต่ละตารางนิ้วนั้นมีเชื้อโรคอาศัยอยู่ถึง 500,000 ตัว วิธีทำความสะอาดขจัดคราบที่คู่ควรกับตัวเลขห้าแสนนี้ ก็คือ ใช้โซดาไฟหรือน้ำส้มสายชูราดทำความสะอาดมันซะ แล้วตามด้วยน้ำเปล่าตามไปอีกที

8. อ่างอาบน้ำ

อ่างอาบน้ำเป็นรังเพาะเชื้อโรคชั้นดีที่หลายคนมองข้ามไป รู้อย่างนั้นแล้วเราจึงควรทำความสะอาดมันสัปดาห์ละครั้งเป็นอย่างน้อย

7. รีโมททีวี

อุปกรณ์บันเทิงประจำ ครัวเรือนที่เรามักจะลืมทำความสะอาดมัน ทั้งๆ ที่เราออกจะหยิบสอยใช้มันออกจะบ่อย ทำความสะอาดบ้านครั้งหน้าก็อย่าลืมหยิบรีโมทไปเช็ดถูกันบ้างนะ

6. ตะกร้าช้อปปิ้ง

ห้างสรรพสินค้ามีทุกสิ่ง ให้คุณเลือกสรร ฉันใดก็ฉันนั้น ตะกร้าช้อปปิ้งในห้างก็มีทุกสิ่งให้เชื้อโรคเลือกที่จะอยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะมาจากสินค้าที่อยู่ในห้างเอง เช่น ของสด ของแห้ง สารเคมี หรือมาจากมือของท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน ที่พึ่งจับราวบันไดเลื่อน หรือพึ่งออกมาจากห้องน้ำห้างมา

5. ฝาที่นั่งชักโครก

ความจริงมันน่าจะสกปรก ได้มากกว่านี้รึเปล่า แต่รู้หรือไม่ว่าฝาที่นั่งชักโครกนั้นมีการออกแบบวัสดุและพื้นผิว ให้ง่ายต่อการทำความสะอาดและยากที่เชื้อโรคจะอาศัยอยู่ แถมเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญ ในการทำความสะอาดอยู่เสมอ (ไม่เอื้ออำนวยขนาดนั้นก็ยังติด 1 ใน 10) โดยรายงานระบุว่า ทุกตารางนิ้วบนฝานั่งชักโครกมีเชื้อโรคอาศัยอยู่ถึง 295 ตัว

4. โทรศัพท์มือถือ

โทรศัพท์มือถือ เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ราคาแพงสำหรับเชื้อโรคเลยก็ว่าได้ ด้วยความเป็นพื้นที่สมบูรณ์ เพียบพร้อมไปด้วยปัจจัยความเจริญของเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิอุ่นๆ เหมือนร่างกายมนุษย์ที่เชื้อโรคชอบ พร้อมซอกซอยร่องหลืบง่ายต่อการกบดานหลบหนี พร้อมพรั่งด้วยโภชนาการและอาหารจากน้ำลายและขี้ไคลมนุษย์ ถ้าโทรศัพท์มีชีวิตเราอาจต้องพามันไปโรงพยาบาลเพื่อฉีดยาแทนที่จะไปมาบุญ ครองเพื่อไปซ่อมมันก็เป็นได้

3. คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์

คนติดคอม ติดเนทหลายๆคน คงคุ้นชินกับพฤติกรรมการกินขนมขบเคี้ยว หรือแม้กระทั่งกินอาหารมื้อหลักหน้าจอคอมพ์ หรือแม้กระทั่งสาวๆเองที่ชอบหวีผมแต่งหน้าบนโต๊ะทำงาน เวลาว่างก็เม้าท์พ่นไฟแชทหน้าเวบแคม รู้หรือไม่ ว่าคีย์บอร์ดนั้นเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี โดยเฉพาะเศษอาหาร ผิวหนัง เหงื่อไคลต่างๆ ที่ผู้ใช้คอมทำตกลงไปในคีย์บอร์ดแล้วไม่ค่อยให้ความสนใจ เนื่องจากเพราะมันตกลงไปในร่อง ทำให้ยากต่อการมองเห็นว่าสกปรกและยากต่อการทำความสะอาด เป็นที่มาว่าทำไมจึงไม่มีใครสนใจ จะทำความสะอาดกันเท่าไหร่นัก จึงทำให้คีย์บอร์ดกลายเป็นแหล่งหมักหมมเพาะพันธุ์เชื้อโรคชั้นดี รายงานระบุว่าคีย์บอร์ดที่ได้รับการสำรวจนั้นสกปรกกว่าฝานั่งชักโครกถึง 40 เท่า แต่ถึงขนาดต้องใช้วิกซอลเข้มข้น 40 เท่าราดคีย์บอร์ดเพื่อทำความสะอาดด้วยรึเปล่ารายงานไม่ได้ระบุไว้

2. สวิตช์เปิด/ปิดไฟ

"สุขภาพวันนี้...ต้อง เล่นกับไฟ" วัตถุที่มนุษย์สัมผัสบ่อยมากเท่าไหร่ เชื้อโรคก็ชอบตามไปอยู่มากเท่านั้น โดยเฉพาะปุ่มสวิทปิดเปิดไฟที่ต้องกดกันอยู่ทุกวัน ผู้เชี่ยวชาญเผยทุกๆ ตารางนิ้วบนสวิตช์ไฟที่เราเอานิ้วไปโดน เชื้อโรคสามารถย้ายสำมโนครัวตามติดมือไปได้ถึง 217 ตัว


1. เงิน ได้แก่ ธนบัตร เหรียญ

แบงค์ที่ เราหยิบจ่ายซื้อของกันอยู่ทุกวันนี้ มีเชื้อโรคอยู่ประมาณ 135,000 ตัว ถึงจะเชื่อว่าใครๆก็อยากมีเงินเยอะๆ จะได้รวยๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องสะสมเชื้อโรคไปตามความรวยด้วยนะ

ไม่ใช่แค่อาหารทำ“คอเลสเตอรอล” พุ่ง


สัปดาห์นี้มีผู้อ่านถามเรื่อง “คอเลสเตอรอล” เข้ามา โดยเล่าว่า ปกติไม่ค่อยได้ทานอาหารทะเลจำพวกหมึก หรือ มันกุ้งบ่อยนัก แต่กลับตรวจพบว่ามีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง จึงอยากทราบว่านอกจากอาหารแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นอีกหรือไม่

“คอเลสเตอรอลสูง” มีสาเหตุร่วมกันของหลายปัจจัย พบมากที่สุดจากเรื่อง “อาหาร” โดยการรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวมากเกินไป อาทิ อาหารเช้าสไตล์ฝรั่ง ทั้งเนื้อหมู เนื้อวัว นม ไข่ เนย ชีส คุกกี้ แครกเกอร์ และมันฝรั่งทอด เป็นต้น

“น้ำหนักตัว” ที่มากเกินไป ส่งผลต่อระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) ให้เพิ่มขึ้น และระดับคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL) ลดลง ทั้งนี้ ผลวิจัยจากต่างประเทศพบว่า น้ำหนักตัวที่ลดลง 10% จะช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าวได้

“กิจกรรมระหว่างวัน” การขาดการออกกำลังกายจะเพิ่ม LDL และลด HDL เช่นกัน ดังนั้น ควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที โดยอาจใช้การเดินเป็นประจำก็ได้

“อายุ และเพศ” เมื่อย่างเข้าสู่วัย 20 ระดับคอเลสเตอรอลตามธรรมชาติจะเริ่มเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ชายอายุ 45 ปีขึ้นไป และหญิงอายุ 55 ปีขึ้นไป ก็มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของคอเลสเตอรอล

“โรคประจำตัว” คอเลสเตอรอลสูงอาจเกิดจากโรคต่าง ๆ เช่น โรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน และ ไฮโปไทรอยด์ (Hypothyroidism) หรือ ภาวะที่ฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกายต่ำ รวมถึงโรคที่สามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ อย่าง ภาวะคอเลสเตอรอลสูงในครอบครัว (Familial Hypercholesterolemia) ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง

“สูบบุหรี่” จะส่งผลต่อระดับคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL) ลดลง ทำให้เส้นเลือดแดงแข็ง และมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจเพิ่มขึ้น

ดังนั้น นอกจากอาหารที่ต้องควบคุมแล้ว ยังต้องเลี่ยงปัจจัยดังกล่าวข้างต้นร่วมด้วย เพื่อลดอัตราเสี่ยงต่อการมีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง และการเกิดปัญหาสุขภาพได้.

จาก Daily New Online วันพฤหัสบดี ที่ 07 เมษายน 2554

นมัสการพระบาทพลวง ที่ เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชฌกูฏ

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชฌกูฏ

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชฌกูฏ

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชกุฏจันทบุรี


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ Mogmag, palungjit.com, easternthailand.com และ larndham.net


อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ หรือที่ใคร ๆ เรียกกันจนติดปากว่า "เขาคิชฌกูฏ" มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอมะขาม และกิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี และยังเป็นต้นน้ำสำคัญของแม่น้ำจันทบุรี สภาพป่าในบริเวณนี้มีทั้งป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา และป่าไม้ผลัดใบ มีสมุนไพรและกล้วยไม้ป่านานาชนิด รวมทั้งมีพันธุ์ไม้หายาก คือ ไม้กฤษณา และ เนื่องจากเป็นป่าที่อยู่ในเขตเทือกเขาสูงชัน จึงมีสัตว์ป่าชุกชุม เช่น กระทิง เสือ หมี กวาง เก้ง เลียงผา และนกชนิดต่าง ๆ นอกจากนี้ ตามลำห้วยยังมีปลาพลวง ปลาก้าง ปลาหนวด ปลาดุกรำพัน อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในบริเวณ อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ได้แก่ น้ำตกกระทิง, น้ำตกคลองช้างเซ, ยอดเขาพระบาท และที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษนั้น เห็นจะเป็นการนมัสการรอยพระบาทเขาคิชฌกูฏ หรือ พระบาทพลวง นั่นเอง

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชกุฏจันทบุรี


เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชฌกูฏ

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชฌกูฏ

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชฌกูฏ

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชฌกูฏ

เขาคิชกุฏจันทบุรี

พระบาทพลวง หรือ พระพุทธบาทพลวง ประดิษฐานอยู่บน เขาคิชฌกูฎ โดย พระบาทพลวง นี้ เป็นรอยพระพุทธบาทขนาดใหญ่ กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร อยู่บนยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร ที่จังหวัดจันทบุรี และถือว่าเป็นรอยพระพุทธบาทที่สูงที่สุดของประเทศไทย และอยู่ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 40 กิโลเมตร

ทั้งนี้ ประชาชนจะนิยมไปนมัสการพระบาทหลวงเป็นจำนวนมาก เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนถึงช่วงวันมาฆบูชาของทุกปี จะมีประชาชนขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาททั้งกลางวันและกลางคืน ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของเขาคิชฌกูฏ ก็ได้จัดงานนมัสการพระบาทพลวงเป็นประจำทุกปีอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ได้มีการจัด งานนมัสการพระบาทพลวง (เขาคิชฌกูฏ) โดยเปิดให้ขึ้นนมัสการ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 - วันที่ 4 เมษายน 2554 ณ บริเวณเขาคิชฌกูฎ ตำบลพลวง อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ส่วนพิธีบวชชีพราหมณ์ ระหว่างวันที่ 19 - 24 มกราคม 2554 และกำหนดพิธีบวงสรวงในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2554 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วัดกระทิง โทรศัพท์ 0-3945-2056

โดยการจัดเดินป่าขึ้นยอดเขาคิชฌกูฏ เป็นงานประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมานาน โดยมีความเชื่อว่าจะได้บุญสูง และเป็นการฝึกจิตใจให้มีความอดทน ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก...ในอดีตจะเป็นการเดินเท้าขึ้นสู่ยอดเขา แต่ในปัจจุบันมีรถบริการให้ประชาชน ได้เดินทางขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ได้สะดวกยิ่งขึ้น

ส่วน กิจกรรมในงานกราบสักการะรอยพระพุทธบาท ซึ่งประดิษฐานอยู่บนยอดเขาคิชฌกูฎ การเดินทางเริ่มต้นที่วัดพลวงไปตามถนนระยะทาง 8 กิโลเมตร จากนั้นเดินขึ้นเขาไปอีกประมาณ 1.2 กิโลเมตร ทิวทัศน์บนยอด เขาคิชฌกูฏ หรือ เขาพระบาท นี้เป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา ที่นำมาผูกกับตำนานทางพระพุทธศาสนา ได้แก่ ศิลาเจดีย์ รอยพระพุทธบาท หินรูปบาตรคว่ำ ถ้ำฤาษี ลานแข่งรถพระอินทร์ หินที่มีรูปร่างคล้ายเต่าและช้างขนาดยักษ์ บนยอดเขาพระบาทซึ่งมีอากาศเย็นสบายนั้น สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาสระบาป เขาสุกิม เกาะนมสาว และตัวเมืองจันทบุรีได้อย่างชัดเจน


เขาคิชฌกูฏ

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชฌกูฏ

เขาคิชกุฏจันทบุรี

เขาคิชฌกูฏ

เขาคิชกุฏจันทบุรี

ซึ่งในช่วงเทศกาลนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง พุทธศาสนิกชนที่มีศรัทธาจะเดินทางขึ้นเขาไปแสวงบุญเป็นจำนวนมาก เพราะนอกจากจะได้นมัสการพระพุทธบาทศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังจะได้ชมความงดงามแปลกอัศจรรย์ของหินลูกพระบาท ก้อนหินกลมใหญ่ริมหน้าผา และได้รับความสดชื่นจากบรรยากาศบนยอดเขาคิชฌกูฏ นอกจากนี้ ผู้ที่ถึงวัดพลวงตอนเย็น สามารถพักค้างคืนเพื่อเริ่มขึ้นยอดเขาในตอนเช้าได้ โดยทางวัดมีที่พัก และที่อาบน้ำไว้รองรับคนได้จำนวนมาก (ว้าว...)

สำหรับการเดินทางนั้นก็ง่ายแสนง่าย หากมาตามถนนสุขุมวิท ถึงทางแยกเข้าตัวเมืองจันทบุรี (สี่แยกเขาไร่ยา) ให้เลี้ยวลงถนนทางน้ำตกกระทิง หรือถนนบำราศนราดูร จากทางแยกเขาไร่ยา ไปถึงน้ำตกกระทิงประมาณ 20 กิโลเมตร เลยวัดระทิงไป 400 เมตร ถึงแยกขวามือไปวัดพลวง เป็นถนนลูกรังระยะทาง 3 กิโลเมตร เมื่อถึงวัดพลวง จะเป็นจุดเริ่มต้นขึ้นไปยังยอดเขา มีรถรับจ้างทดเฟืองพิเศษรับไปส่งถึงจุดที่ใกล้ที่สุด และเดินเท้าต่ออีกประมาณ 40 นาท

ทั้งนี้ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาคิดชฌกูฎ โทรศัพท์ 0-3945-2075, กิ่งอำเภอเขาคิดชฌกูฎ โทรศัพท์ 0-3945-2437 หรือ องค์การบริหารส่วนตำบลพลวง โทรศัพท์ 0-3930-9281

สุดยอดอาหารที่ให้ผลดีต่อหัวใจ

จากการสำรวจอาหารที่ให้ผลดีต่อหัวใจพบว่ามีอาหารที่ให้ผลดีต่อหัวใจ 25 ชนิด

  1. เมล็ดป่าน Flaxseed (ground) ให้สาร Omega-3 fatty acids; fiber, phytoestrogens.
  2. ข้าวโอ๊ต Oatmeal ให้สารOmega-3 fatty acids; magnesium; potassium; folate; niacin; calcium; soluble fiber.
  3. Tofu Niacin; folate; calcium; magnesium; potassium.
  4. Brown rice B-complex vitamins; fiber; niacin; magnesium, fiber.
  5. Soy milkIsoflavones (a flavonoid); B-complex vitamins; niacin; folate, calcium; magnesium; potassium; phytoestrogens.
  1. Blueberries Beta-carotene and lutein (carotenoids); anthocyanin (a flavonoid); ellagic acid (a polyphenol); vitamin C; folate; calcium, magnesium; potassium; fiber.
  2. Carrots Alpha-carotene (a carotenoid); fiber.
  3. Spinach Lutein (a carotenoid); B-complex vitamins; folate; magnesium; potassium; calcium; fiber.
  4. Broccoli Beta-carotene (a carotenoid); Vitamins C and E; potassium; folate; calcium; fiber.
  5. Sweet potato Beta-carotene (a carotenoid); vitamins A, C, E; fiber.
  6. Red bell peppers Beta-carotene and lutein (carotenoids); B-complex vitamins; folate; potassium; fiber
  7. Asparagus Beta-carotene and lutein (carotenoids); B-complex vitamins; folate; fiber.
  8. Oranges Beta-cryptoxanthin, beta- and alpha-carotene, lutein (carotenoids) and flavones (flavonoids); vitamin C; potassium; folate; fiber.
  9. Tomatoes Beta- and alpha-carotene, lycopene, lutein (carotenoids); vitamin C; potassium; folate; fiber.
  10. Acorn squash Beta-carotene and lutein (carotenoids); B-complex and C vitamins; folate; calcium; magnesium; potassium; fiber.
  11. Cantaloupe Alpha- and beta-carotene and lutein (carotenoids); B-complex and C vitamins; folate; potassium; fiber.
  12. Papaya Beta-carotene, beta-cryptoxanthin, lutein (carotenoids); Vitamins C and E; folate; calcium; magnesium; potassium.
  13. Dark chocolate Reservatrol and cocoa phenols (flavonoids).
  14. Tea Catechins and flavonols (flavonoids).


ผักและผลไม้

มีแร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย ลดหารเกิดโรคเบาหวานความดันโลหิตสูง



ถั่วดำ Black or Kidney Beans

อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินเช่น (B-complex vitamins; niacin; folate; magnesium; omega-3 fatty acids; calcium; soluble fiber).กรดโฟลิก ใยอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระ แมกนีเซี่ยม ลดความดันโลหิตสูง ลดไขมัน และป้องกันเบาหวาน



Red wine ไวร์แดง

มีสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญสองชนิดได้แก่ Catechins and reservatrol ซึ่งจะเพิ่มไขมัน HDL ซึ่งเป็นไขมันที่ดี และยังป้องกันผนังหลอดเลือด




ปลา Salmon

เป็นยอดปลาที่ให้ omega-3s EPA and DHA. omega-3sจะป้องกันการเต้นผิดปกติของหัวใจ ลดไขมัน triglyceride ลดการอักเสบของผนังหลดเลือด สมาคมโรคหัวใจแนะนำ ให้รับประทานปลาที่มีไขมันสัปดาห์ละสองมื้อ



ปลา Tuna

มีomega-ในปริมาณที่สูง นอกจากนั้นปลา mackerel, herring, lake trout, sardines, and anchovies.ก็มี omegaด้วยเหมือนกัน



น้ำมันมะกอก

มีสารต้านอนุมูลอิสระ และน้ำมัน monounsaturated fat จะช่วยลดไขมัน cholesterol และป้องกันเส้นเลือดตีบ



ถั่ว Walnuts

ให้สาร Plant omega-3 fatty acids; vitamin E; magnesium; folate; fiber; heart-favorable mono- and polyunsaturated fats; phytosterols.สามารถลดไขมัน cholesterol และลดการอักเสบ



ถั่ว Almonds

Plant omega-3 fatty acids; vitamin E; magnesium; fiber; heart-favorable mono- and polyunsaturated fats; phytosterols. ลดไขมัน และลดความเสี่ยงต่อการเกิดเบาหวาน



ถั่วแระ Edamame

จะรับประทานแบบต้ม อบ หรือแช่เย็นก็ได้ สามารถลดไขมัน cholesterol



เต้าหู้ Tofu

มีสาร Niacin; folate; calcium; magnesium; potassium. ใช้ประกอบอาหารแทนเนื้อสัตว์สำหรับมือค่ำจะทำให้ลดไขมัน และป้องกันหลอดเลือด






กระเจี๊ยบแดง-พุทราจีน ลดไข้มันในเลือด

เมนู เครื่องดื่มสุขภาพ น้ำกระเจี๊ยบแดงและพุทราจีน ที่ช่วยลดไขมันในเลือด หินปูนในหลอดเลือด และบำรุงเยื่อหุ้มหัวใจ เผื่อผู้อ่านรักษ์สุขภาพจะได้นำไปลองปรุงดื่มกันดู

กระเจี๊ยบแดง-พุทราจีน ลดไข้มันในเลือด

สำหรับ สรรพคุณของกระเจี๊ยบแดงนั้น ช่วยลดไขมันในหลอดเลือด ลดความดันเลือด ลดความข้นในกรณีที่เลือดหนืด ป้องกันเส้นเลือดเสื่อมสภาพ ช่วยให้ตับหลั่งน้ำดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยย่อยอาหาร ขับปัสสาวะ และลดน้ำหนัก ส่วนพุทราจีน มีประโยชน์ช่วยบำรุงเลือด ลดโอกาสเสี่ยงผนังเส้นเลือดแข็งตัว ป้องกันหลอดเลือดหัวใจและสมองตีบตัน

ขั้น ตอนในการทำง่ายแสนง่าย เพียงเตรียมกระเจี๊ยบแดง พุทราจีน ในสัดส่วนที่เท่ากัน จากนั้นนำไปต้มกับน้ำสะอาดในปริมาณที่พอเหมาะ เติมน้ำตาลทรายแดงลงไปเล็กน้อย เมื่อน้ำตาลทรายแดงละลายก็เป็นอันเสร็จ สามารถเติมน้ำแข็งเพื่อเพิ่มความสดชื่นและดื่มได้ทันที หรือแช่ตู้เย็นเก็บไว้ดื่มได้.

takecareDD@gmail.com

ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ข้อมูลโดย : นิตยสาร หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ยืดกล้ามเนื้อแก้ปวดหลัง

เมื่อรู้สึกปวดหลัง วิธีบำบัดเบื้องต้นที่ไม่ควรมองข้าม คือ การบริหารกล้ามเนื้อ เพื่อยืดเหยียดกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้อง

ยืดกล้ามเนื้อแก้ปวดหลัง

ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยที่เกิดขึ้นได้ด้วยตัวของคุณเอง ก่อนที่จะหันไปรับประทานยาแก้ปวด หรือพบแพทย์เพื่อรักษา

เริ่ม จากการนอนหงาย งอเข่าขึ้นตั้งฉาก แขนทั้งสองข้างวางแนบกับพื้น หายใจเข้าและออกลึก ๆ 5-10 ครั้ง จากนั้นดึงเข่าข้างหนึ่งขึ้นมาชิดหน้าอก ค้างไว้ 5 วินาที ทำสลับกับขาอีกข้าง จนครบ 10 ครั้ง แล้วดึงเข่าทั้งสองข้างให้ชิดหน้าอกพร้อมกัน ค้างไว้ 5 วินาที ทำซ้ำ 10 ครั้ง ต่อด้วยการเอียงเข่าท้องสองข้างไปทางด้านซ้ายเพื่อบิดสะโพก ค้างไว้ 5 วินาที สลับกับข้างขวา ทำจนครบ 10 ครั้ง

ยังอยู่ในท่านอนหงาย โดยยกขาขึ้นข้างหนึ่งแล้วเกร็งขายกค้างไว้ 5 วินาที เอาขาลงแล้วยกขาอีกข้างทำสลับกันไป 10 ครั้ง แล้วกลับสู่ท่านอนหงาย ชันเข่าขึ้นตั้งฉาก แอ่นหลังแล้วเกร็งกล้ามเนื้อค้างไว้ 5 วินาที (ซึ่งช่วงก้นยังต้องติดพื้น) ผ่อนลงช้า ๆ จนหลังแนบพื้นนาน 5 วินาที จึงแอ่นหลังขึ้นมาใหม่ทำซ้ำเช่นเดิม 10 ครั้ง

ส่วนการยืดกล้ามเนื้อ ช่วงสะโพกและเชิงกราน ก็ให้นอนหงาย งอเข่าตั้งฉาก แล้วยกหลังและสะโพกขึ้นจากพื้นให้มากที่สุด เกร็งกล้ามเนื้อค้างไว้ 5 วินาที แล้วค่อย ๆ ลดระดับลงจนหลังและสะโพกแนบพื้น ทำซ้ำเช่นเดิม 10 ครั้ง

ต่อ ด้วยการนอนหงาย ชันเข่าตั้งฉาก ยกศีรษะขึ้นพร้อมกับเกร็งหน้าท้อง แล้วใช้มือแตะที่เข่า ค้างไว้ 5 วินาที แล้วกลับสู่ท่าเดิม ทำจนครบ 10 ครั้ง

ยังมีท่ายืดเหยียดกล้ามเนื้อหลังโดยตรง เริ่มจากคุกเข่าลงกับพื้นแล้วโน้มลำตัวไปด้านหน้า เหยียดมือทั้งสองข้างแตะพื้น จากนั้นจึงแอ่นหลังพร้อมกับเงยหน้าขึ้นค้างนาน 5 วินาที ทำสลับกับการโก่งหลังและก้มคอลงจนครบ 10 ครั้ง

สเต๊ปต่อ มายังอยู่ในท่าคุกเข่าลงกับพื้นแล้วโน้มลำตัวไปด้านหน้า เหยียดมือทั้งสองข้างแตะพื้น แต่ให้เหยียดยืดขาข้างหนึ่งไปด้านหลัง เกร็งค้าง 5 วินาที ทำสลับกับอีกข้างจนครบ 10 ครั้ง ทั้งนี้สามารถเพิ่มการยืดเหยียดที่แขน ขณะยืดขาไปด้านหลังให้ยกแขนข้างตรงกันข้ามขึ้นสูงค้างไว้แล้วยกลงพร้อมกับขา

เปลี่ยนเป็นการนอนคว่ำ ช่วงเขาแนบติดพื้น แล้วแอ่นหลังขึ้นจากพื้นนับ 5 วินาที ผ่อนลงนอนราบท่าเดิม จนครบ 10 ครั้ง จากนั้นยกขาข้างใดข้างหนึ่งขึ้นให้มากที่สุดค้าง 5 วินาที สลับกับขาอีกค้างให้ครบ 10 ครั้ง สุดท้ายในท่านอนคว่ำหน้า ให้ยกศีรษะพร้อมช่วงอกขึ้นจากพื้นให้มากที่สุดค้างไว้นาน 5 วินาที 10 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม การบริหารกล้ามเนื้อตามสเต๊ปข้างต้น ไม่ควรทำอย่างรีบร้อนและรุนแรง หากอาการปวดกลับเพิ่มมากขึ้นควรรีบปรึกษาแพทย์.

takecareDD@gmail.com

ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ข้อมูลโดย : นิตยสาร หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

วิธีปฏิบัติตัวเมื่อเป็นโรคกระเพาะ

วันนี้เรามีวิธีปฏิบัติสำหรับคนที่รู้ตัวว่าเป็นโรคกระเพาะมาบอก

วิธีปฏิบัติตัวเมื่อเป็นโรคกระเพาะ

  • กินอาหารให้เป็นเวลา ไม่ปล่อยให้ท้องว่างหรือหิว ถ้าหิวก่อนเวลาให้ดื่มนม หรือน้ำเต้าหู้ น้ำข้าว น้ำผลไม้
  • หลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัดจากน้ำสมสายชู
  • งดดื่มเหล้า เบียร์ ยาดอง กาแฟ
  • งดการสูบบุหรี่
  • หลีกเลี่ยงการกินยาแก้ปวด แก้ไข้ ที่มีแอสไพริน หรือยาชุดต่าง ๆ รวมทั้งยาแก้ปวดกระดูก และยาสเตียรอยด์ ยาลูกกลอน ยาหม้อต่าง ๆ
  • ควรพักผ่อนให้มากเพียงพอ ทำจิตใจให้เบิกบานผ่อนคลายเครียด วิตกกังวล และไม่หงุดหงิดอารมณ์เสียง่าย
  • กิน ยาตามแพทย์สั่ง ถ้ากินยาแล้วอาการดีขึ้น ต้องกินยาติดต่อกันอย่างน้อย 4-6 อาทิตย์ ไม่ควรหยุดยาก่อน เพราะอาการปวดท้องจะกำเริบได้อีก
  • ควรออกกำลังกาย แต่ไม่ควรหักโหมมากเกินไป
  • อย่าซื้อยากินเอง ถ้ามีโรคอื่นร่วมด้วยควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
  • รู้อย่างนี้แล้ว ก็อย่าลืมหันมาดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงจะดีกว่า.

    ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

    ข้อมูลโดย : นิตยสาร หนังสือพิมพ์เดลินิวส์